เมื่อเป็นเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงที่เห็นได้ชัด เช่น เครื่องจักรหรือสารเคมีรั่วไหล แต่มองข้ามการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นประกายไฟล่องหนที่อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ การใช้มาตรการควบคุมไฟฟ้าสถิตอย่างครอบคลุม รวมถึงการปกป้องมืออย่างเหมาะสม ระบบสายดิน เครื่องแบบป้องกันไฟฟ้าสถิต และการควบคุมทางวิศวกรรม จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อดูแลผู้ปฏิบัติงานให้ปลอดภัย
ไฟฟ้าสถิตในสถานที่ทำงานคืออะไร
ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นเมื่อวัสดุ 2 ชนิดถูเข้าด้วยกันและก่อให้เกิดการเสียสมดุลทางประจุไฟฟ้า ในสภาพแวดล้อมแบบต่างๆ เช่น สายงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การแปรรูปสารเคมี หรือห้องปลอดเชื้อ ประจุไฟฟ้าสะสมอาจกลายเป็นไฟฟ้าสถิต (electrostatic discharge: ESD) ซึ่งก่อให้เกิดเพลิงไหม้ การระเบิด หรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ละเอียดอ่อน
นอกจากนี้ ในขณะทำกิจกรรมทั่วไป เช่น การจัดการวัสดุจำนวนมาก การขนย้ายสารเคมี หรือการใช้งานอุปกรณ์ เช่น สายพานลำเลียง ก็มีความเสี่ยงจากการระเบิดเนื่องจากไฟฟ้าสถิตเช่นกัน ความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นเมื่อถุงมือหรือชุดป้องกันผลิตจากวัสดุที่เป็นฉนวนประจุไฟฟ้า แทนที่จะปล่อยให้ไฟฟ้าผ่านได้ ซึ่งเพิ่มโอกาสการเกิดไฟฟ้าสถิตที่เป็นอันตราย ชมวิดีโอเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
อันตรายจากไฟฟ้าสถิตที่พบได้บ่อยในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม
ไฟฟ้าสถิตอาจเป็นอันตรายในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย อุตสาหกรรมบางส่วนที่พบเจอความเสี่ยงดังกล่าวมากที่สุด ได้แก่
- อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์
- อุตสาหกรรมอาหาร
- อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
- บริษัทบำบัดของเสีย
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- อุตสาหกรรมยานยนต์
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าสถิต
การระเบิดและความเสียหายต่อส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์
ความเสี่ยงในโซน ATEX
สภาพแวดล้อมแบบ ATEX (พื้นที่ที่มีบรรยากาศที่อาจระเบิดได้) มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษที่จะมีแหล่งจุดติดไฟได้ง่ายจากไฟฟ้าสถิต ในพื้นที่เหล่านี้ ประกายไฟจากไฟฟ้าสถิตเพียงครั้งเดียวอาจจุดระเบิดได้ ดังนั้นจึงสร้างความเสี่ยงอันตรายต่อทั้งผู้ปฏิบัติงานและสถานประกอบการ
ความเสี่ยงต่อส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อน
ไฟฟ้าสถิต (ESD) อาจสร้างความเสียหายต่อชิ้นส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ประเด็นนี้สำคัญอย่างยิ่งในภาคการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และการประกอบวงจรรวม ซึ่งไฟฟ้าสถิตเพียงเล็กน้อยก็อาจทำลายชิ้นส่วนราคาแพงที่ละเอียดอ่อนได้
การป้องกันไฟฟ้าสถิต: แนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อความปลอดภัยเชิงอุตสาหกรรม
การตระหนักถึงอันตรายของไฟฟ้าสถิตเป็นเพียงแค่ก้าวแรก การใช้มาตรการป้องกันเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องผู้ปฏิบัติงานและทรัพย์สิน
การป้องกันไฟฟ้าสถิตช็อตในสถานที่ทำงาน
ในการลดอันตรายของไฟฟ้าสถิต ควรพิจารณาการดำเนินการเชิงป้องกันดังต่อไปนี้
- ต่อกราวนด์ให้กับผู้ปฏิบัติงาน อุปกรณ์ และ PPE ทั้งหมด
- ใช้สายรัดข้อมือป้องกันไฟฟ้าสถิตและรองเท้านำไฟฟ้า
- งดเว้นการใช้วัสดุที่เป็นฉนวน ถ้าเป็นไปได้
- ควบคุมความชื้น: รักษาระดับความชื้นให้เพียงพอ
- ใช้วัสดุป้องกันไฟฟ้าสถิต: เปลี่ยนพื้นผิวหรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นฉนวนเป็นวัสดุที่กระจายไฟฟ้าสถิต
- ติดตั้งระบบพื้นที่เหมาะสม: ติดตั้งวัสดุปูพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งกระจายประจุไฟฟ้าผ่านรองเท้าไปยังพื้นดิน
- การถ่ายเทอากาศและการควบคุมปริมาณฝุ่น: ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นที่อาจระเบิดได้ ต้องมีระบบกักเก็บฝุ่นและระบบถ่ายเทอากาศที่เหมาะสมเพื่อป้องกันฝุ่นสะสม
- การตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำ: ตรวจสอบจุดต่อสายดิน สายไฟ และระบบควบคุม ESD เป็นประจำเพื่อสังเกตการสึกหรอหรือความขัดข้อง
- ฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงงานเกี่ยวกับความเสี่ยงของไฟฟ้าสถิตและการเลือกใช้ PPE ที่เหมาะสม
ESD กับการป้องกันไฟฟ้าสถิต: เข้าใจความแตกต่าง
คำว่า "ป้องกันไฟฟ้าสถิต" และ "กระจายไฟฟ้าสถิต" มักใช้สลับกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความสับสนและความไม่แน่ชัดเกี่ยวกับความหมายที่ถูกต้องแน่นอน ความสับสนนี้อาจทำให้การเลือกถุงมือที่เหมาะสมเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในสภาพบรรยากาศที่อาจระเบิดได้ (โซน ATEX)
เพื่ออธิบายประเด็นนี้ให้ชัดเจน เราจะอ้างอิงคำจำกัดความจากรายงานทางเทคนิคที่ชื่อว่า: “การเลือก ใช้ ดูแล และบำรุงรักษาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลสำหรับการป้องกันความเสี่ยงจากไฟฟ้าสถิตในพื้นที่อันตราย (ความเสี่ยงของการระเบิด)” (CEN-CENELEC JWG ESR N 97)
กระจายไฟฟ้าสถิต (ESD)
อธิบายถึงวัสดุหรือวัตถุที่กระจายประจุไฟฟ้าจนถึงระดับที่ยอมรับได้ภายในระยะเวลาที่ยอมรับได้
ป้องกันไฟฟ้าสถิต
คุณสมบัติของวัสดุหรือวัตถุที่สามารถลดแนวโน้มในการสะสมประจุไฟฟ้าจากการสัมผัสหรือขัดถู หรือลดเวลาในการกระจายประจุไฟฟ้าจนถึงระดับที่ยอมรับได้
คำศัพท์ที่พบบ่อยเกี่ยวกับถุงมือ
ในทางปฏิบัติ การใช้คำดังต่อไปนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปทางการค้า
- ใช้คำว่าถุงมือ ESD สำหรับถุงมือที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐาน EN 16350 โดยเฉพาะถุงมือที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงอาจเกิดระเบิดได้ (ATEX) มาตรฐาน EN16350 กำหนดความต้านทานแนวดิ่งสูงสุดที่อนุญาตไว้ที่ ≤ 1.0 × 10⁸ โอห์ม (10⁸ Ω)
- ใช้คำว่าถุงมือป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับถุงมือที่ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งของมาตรฐาน EN 1149-5 ถึงแม้ว่ามาตรฐานฉบับนี้จะมีเจตนาเพื่อใช้กับชุดป้องกัน (เช่น ชุดคลุม) ก็ตาม
Ansell นำเสนอผลิตภัณฑ์ถุงมือป้องกันหลายแบบ รวมถึงถุงมือ ESD ที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมแบบ ATEX และสถานที่ทำงานอุตสาหกรรมที่เข้มงวด สำหรับการทำงานที่มีทั้งอันตรายจากสารเคมีและไฟฟ้าสถิต PPE สำหรับการป้องกันสารเคมีและไฟฟ้าสถิตย่อมสำคัญมาก
สร้างอนาคตที่ปลอดภัยด้วย PPE ที่เหมาะสม
การทำความเข้าใจอันตรายในสถานที่ทำงานเป็นก้าวแรกสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น การเลือกถุงมือ PPE ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องทีมงานจากความเสี่ยงของไฟฟ้าสถิต ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการระเบิด